ความเข้าใจ เข็มฉีดยา ขนาดและข้อมูลการวัด
การเลือกไซส์เข็มฉีดยาที่เหมาะสมมีความสำคัญมากเมื่อต้องการให้การให้ยาเป็นไปอย่างถูกต้อง เข็มฉีดยามีหลายขนาด โดยส่วนใหญ่จะใช้หน่วยมิลลิลิตร (mL) แต่บางชนิดใช้หน่วยพิเศษ เช่น หน่วยที่ใช้สำหรับอินซูลิน ซึ่งเป็นสิ่งที่พยาบาลและแพทย์ต้องเข้าใจให้ถูกต้องเพื่อการให้ขนาดยาที่เหมาะสม ขอให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า 1 มิลลิลิตรเท่ากับประมาณ 100 หน่วยอินซูลิน การรู้จักการแปลงค่านี้จึงช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ยาแต่ละชนิดก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันด้วย บางสูตรกำหนดให้วัดในหน่วยมิลลิลิตร บางสูตรต้องนับจำนวนหน่วยแทน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องเข้าใจระบบการวัดเหล่านี้ทั้งหมด เพราะความปลอดภัยของผู้ป่วยขึ้นอยู่กับเรื่องนี้
หน่วยการวัดหลัก: mL เมื่อเทียบกับ หน่วย
บุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องเข้าใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการวัดปริมาณยาด้วยเข็มฉีดยา ซึ่งรวมถึงหน่วยมิลลิลิตร (mL) และหน่วยอินซูลิน เพื่อหลีกเลี่ยงการให้ยาผิดปริมาณแก่ผู้ป่วย ตัวอย่างเช่นในการจัดการโรคเบาหวาน 1 มิลลิลิตรเท่ากับประมาณ 100 หน่วยอินซูลิน ซึ่งเป็นสิ่งที่พยาบาลทุกคนที่ดูแลผู้ป่วยเบาหวานควรจดจำให้ได้ การคำนวณให้ถูกต้องมีความสำคัญมาก เพราะข้อผิดพลาดอาจนำไปสู่ปัญหามากมาย ตั้งแต่การรักษาไม่มีประสิทธิภาพไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย ยิ่งไปกว่านั้น ยาแต่ละชนิดก็ใช้ระบบการวัดที่แตกต่างกัน บางชนิดใช้หน่วย mL ในขณะที่บางชนิดใช้หน่วยอื่น ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานควรเชี่ยวชาญในการแปลงค่าเหล่านี้ แพทย์คนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่าเขายังคงตรวจสอบการคำนวณถึงสองครั้งก่อนทำการให้ยาใด ๆ เพราะข้อผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้แม้กับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์
มาตรฐาน เข็มฉีดยา ช่วงปริมาตร
เข็มฉีดยาทางการแพทย์มีหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ขนาดเล็กเพียง 0.3 มิลลิลิตร ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่จุได้ถึง 60 มิลลิลิตร และแต่ละขนาดก็มีวัตถุประสงค์การใช้งานเฉพาะทางในสถานบริการสาธารณสุข ขนาดเล็กที่อยู่ระหว่าง 0.3 มิลลิลิตร ถึง 3 มิลลิลิตร มักถูกใช้เมื่อแพทย์ต้องการให้ปริมาณยาที่แม่นยำสูงเป็นพิเศษ เช่น การฉีดอินซูลินหรือการให้วัคซีนบางชนิด ส่วนงานที่ต้องการของเหลวมากกว่า เช่น การล้างแผลหรือการล้างสายสวน ขนาดที่ใหญ่กว่า 5 มิลลิลิตร จะเหมาะสมกว่าสำหรับงานลักษณะนี้ที่ต้องการการล้าง (irrigation) พยาบาลและแพทย์จึงจำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างของขนาดเหล่านี้เป็นอย่างดี เนื่องจากการเลือกใช้ขนาดที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา พวกเขาต้องเลือกขนาดของเข็มฉีดยาให้ตรงกับชนิดของยาที่นำมาใช้ รวมถึงคำนึงถึงกระบวนการทำงานประจำวันของคลินิกหรือโรงพยาบาลนั้นๆ ด้วย
ทั่วไป เข็มฉีดยา ขนาดและการใช้งาน
เข็มฉีดยาขนาด 0.3 มล.: ความแม่นยำสำหรับการให้ยาขนาดเล็ก
เข็มฉีดยาขนาด 0.3 มิลลิลิตรมีประโยชน์มากเมื่อต้องให้ยาในปริมาณน้อย ๆ เช่น การฉีดอินซูลิน ซึ่งการได้รับปริมาณที่ถูกต้องมีความสำคัญอย่างมาก โดยปกติเข็มฉีดยามาพร้อมกับเข็มที่บางเป็นพิเศษประมาณ 30 หรือ 31 เบอร์ ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวด และทำให้ผิวหนังได้รับผลกระทบลดลงเมื่อเทียบกับเข็มที่ใหญ่กว่า ผู้ป่วยที่ต้องการการวัดปริมาณยาอย่างแม่นยำมักชื่นชอบเข็มชนิดนี้ เพราะสามารถรับยาได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยไม่ยุ่งยากเกินไป แพทย์และพยาบาลจำเป็นต้องเลือกขนาดที่เหมาะสม เนื่องจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การให้ปริมาณยาผิดพลาด การทำให้สิ่งนี้ถูกต้องไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกด้วย
เข็มฉีดยาขนาด 0.5mL: ความหลากหลายในการให้ยา
เข็มฉีดยาขนาด 0.5 มิลลิลิตร เสนอความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความแม่นยำในการให้ยาและใช้งานง่าย ซึ่งทำให้มันมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อต้องให้วัคซีนกับเด็กๆ บุคลากรทางการแพทย์มักเลือกใช้เข็มฉีดยานี้ เนื่องจากมีขนาดเข็มหลากหลาย ตั้งแต่เข็มขนาดเล็กเบอร์ 30 สำหรับบริเวณที่มีความไวสูงไปจนถึงเข็มที่หนาขึ้น ซึ่งจำเป็นสำหรับยาบางชนิด การเลือกขนาดเข็มที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมาก เพราะมันส่งผลต่อความสบายตัวของผู้ป่วยในขณะฉีดยา รวมถึงประสิทธิภาพของยาด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คลินิกต่างๆ มักจัดหาเข็มฉีดยานี้ไว้ในคลัง เนื่องจากมันใช้งานได้ดีในหอผู้ป่วยเด็ก โครงการฉีดวัคซีน และแม้แต่ในบริบทของการดูแลสุขภาพที่บ้าน ซึ่งพื้นที่อาจจำกัดแต่ยังคงต้องการความแม่นยำ
เข็มฉีดยาขนาด 1-3 มล.: แอปพลิเคชันมาตรฐาน
ขนาดกระบอกฉีดยา 1 ถึง 3 มิลลิลิตร คือขนาดที่แพทย์มักเลือกใช้บ่อยที่สุดในการให้ยาฉีด ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนหรือยาทั่วไป กระบอกฉีดยารุ่นนี้ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถวัดปริมาณยาที่เหมาะสมได้ จึงเหมาะสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่ต้องการขนาดยาในระดับปานกลาง เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เข้าใจการใช้งานของกระบอกฉีดยาขนาดนี้เป็นประจำ ก็จะสามารถเลือกใช้ขนาดที่เหมาะสมในแต่ละกรณี ทำให้การให้ขนาดยาถูกต้องและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้ดีขึ้น ความจริงที่ว่าขนาดนี้สามารถใช้ได้กับการรักษาที่หลากหลาย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคลินิกและโรงพยาบาลจึงต้องสั่งซื้อวัสดุประเภทนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในกิจกรรมประจำวัน
ขนาดใหญ่กว่า (5 มล.+): การใช้งานเฉพาะทางและการล้างแผล
เข็มฉีดยาที่ใหญ่กว่า 5 มล. มักถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในงานพิเศษตามโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การล้างบาดแผล การให้อาหารทางท่อ หรือการฉีดยาทั่วไปที่ต้องการปริมาณของเหลวมาก ปลายเข็มของไซริงค์ขนาดใหญ่เหล่านี้ก็มีความแตกต่างกันด้วย บางชนิดมีปลายแบบล็อกเกลียว (Luer lock) ในขณะที่บางชนิดมีปลายแบบสวมเรียบ (slip tip) การเข้าใจว่าแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบใดนั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อการปฏิบัติงานทางการแพทย์ที่ถูกต้องและการรักษาความปลอดภัยของผู้ป่วย เมื่อแพทย์และพยาบาลเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเข็มขนาดใหญ่เหล่านี้สามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง ก็จะสามารถจัดการกับกรณีที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการปริมาณสารมากหรือคุณสมบัติพิเศษในระหว่างการรักษา
ปัจจัย ที่ ควร พิจารณา เมื่อ เลือก เข็มฉีดยา ขนาด
ปริมาณและความต้องการของยา
การเลือกขนาดของเข็มฉีดยาที่ถูกต้องเริ่มต้นจากการคำนวณอย่างแน่ชัดว่า ต้องใช้ปริมาณยาเท่าไรในการให้ยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคำนวณผิดพลาดจะส่งผลเสียอย่างมาก เนื่องจากปริมาณยาน้อยเกินไปหรือมากเกินไป อาจทำให้อาการแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนพยายามวัดปริมาณยาที่น้อยมากด้วยเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ ก็จะทำให้ต้องเดาตำแหน่งของระดับปริมาณ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ในระยะยาว แพทย์และพยาบาลยังต้องคำนึงถึงความหนืดของยาด้วย เพราะยาบางชนิดมีลักษณะไหลลื่นเหมือนน้ำในขณะที่ยาอื่น ๆ มีความหนืดมากกว่า เปรียบเสมือนน้ำผึ้ง ด้วยเหตุนี้ ยาบางชนิดจึงมาพร้อมกับเข็มฉีดยาพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสารที่มีความหนืด สรุปคือ ควรใช้เวลาศึกษารายละเอียดเหล่านี้ก่อนที่จะหยิบเข็มฉีดยาที่ใกล้ตัวที่สุด
ประเภทของการฉีด (ใต้ผิวหนัง เข้ากล้ามเนื้อ เป็นต้น)
การรู้ว่าต้องให้ฉีดแบบไหนมีบทบาทสำคัญมากเมื่อเลือกใช้เข็มฉีดยาและหลอดฉีดยา การฉีดเข้าใต้ผิวหนังกับการฉีดเข้ากล้ามเนื้อนั้นต้องใช้อุปกรณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น การฉีดเข้ากล้ามเนื้อมักต้องใช้หลอดฉีดยาที่มีขนาดใหญ่กว่า เนื่องจากของเหลวที่ต้องฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมีปริมาณมากกว่าการฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ทักษะที่ถูกต้องและการรู้จุดฉีดบนร่างกายให้แม่นยำนั้นมีผลต่อประสิทธิภาพของยารักษาที่ให้ไป การทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมคือเป้าหมายหลัก การเลือกใช้หลอดฉีดยาที่ขนาดไม่เหมาะสมอาจดูไม่ผิดแปลกในตอนแรก แต่อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาลดลงอย่างมาก
อายุและความเป็นลักษณะทางร่างกายของผู้ป่วย
อายุของบุคคลและรูปร่างรวมถึงค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มีบทบาทสำคัญในการเลือกขนาดของเข็มฉีดยาที่เหมาะสม เด็ก ๆ โดยทั่วไปต้องการขนาดเล็กกว่า เพราะเข็มขนาดใหญ่จะทำให้ไม่สบายตัว และอาจทำให้ปริมาณยาที่ให้นั้นไม่แม่นยำ ในทางกลับกัน ผู้ใหญ่ที่มีรูปร่างใหญ่มักเหมาะกับเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถให้ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกขนาดที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลจะช่วยให้การรักษาปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นโดยรวมให้กับผู้ป่วย การตัดสินใจทางการแพทย์ที่ปรับให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละรายไม่เพียงแต่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ดี แต่ยังช่วยสร้างความไว้วางใจในระยะยาว และทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้บริการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
ประเภทเข็มฉีดยาเฉพาะทางและการประยุกต์ใช้งาน
เข็มฉีดยาอินซูลิน: การเลือกขนาดเข็มให้เหมาะสมกับขนาดยา
การเลือกเข็มฉีดอินซูลินที่เหมาะสมมีความสำคัญมากในการจัดการโรคเบาหวานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเข็มพิเศษเหล่านี้มีความหนาที่แตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณอินซูลินที่ผู้ป่วยต้องการในแต่ละเวลารับประทานอาหาร โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยส่วนใหญ่พบว่าเข็มที่บางกว่า (ซึ่งมีตัวเลขมากกว่า) จะทำให้เจ็บน้อยลงเวลาฉีด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องฉีดยาหลายครั้งต่อวัน แพทย์และพยาบาลจึงใช้เวลาในการสอนผู้ป่วยให้สามารถเลือกเข็มฉีดได้อย่างเหมาะสม เพราะการเลือกอย่างถูกต้องจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ในระยะยาว การแนะนำอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่การแพทย์จึงมีบทบาทสำคัญว่าผู้ป่วยจะสามารถปฏิบัติตามแผนการรักษาได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

เข็มฉีดยาปลอดภัย: คุณสมบัติการป้องกันเข็ม
เข็มฉีดยาที่มีความปลอดภัยถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้วในส่วนใหญ่ของสถานบริการสุขภาพในปัจจุบัน ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันเข็มที่ติดตั้งไว้ภายในตัว เพื่อลดปัญหาการบาดเจ็บจากเข็มทิ่มตำที่เป็นกังวลสำหรับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จำนวนมาก แบบอย่างส่วนใหญ่จะมีระบบดึงเข็มเก็บโดยอัตโนมัติหลังจากฉีดยาเสร็จ หรือมีฝาครอบที่เลื่อนออกมาปิดทันที ช่วยลดความเสี่ยงที่บุคคลจะถูกเข็มบาดโดยไม่ได้ตั้งใจ โรงพยาบาลและคลินิกจำเป็นต้องรู้ว่ามีเข็มฉีดยาที่ปลอดภัยชนิดใดบ้างในท้องตลาด เพราะการปกป้องเจ้าหน้าที่ของตนเองก็เป็นเพียงหนึ่งด้านเท่านั้น ผู้ป่วยเองก็ได้รับประโยชน์เช่นกันเมื่อใช้อุปกรณ์ที่ปลอดภัยเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ สาระสำคัญก็คือ เมื่อแพทย์และพยาบาลใช้เข็มฉีดยาที่สามารถป้องกันการบาดเจ็บได้จริง ทุกฝ่ายจะอยู่ในสภาพที่ดีขึ้น การเกิดอุบัติเหตุลดน้อยลง หมายถึงการแพร่กระจายของเชื้อโรคผ่านเข็มที่ปนเปื้อนจะลดลง และกล่าวโดยทั่วไปคือสภาพแวดล้อมการทำงานโดยรวมจะดีขึ้นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เข็มฉีดยาที่เติมไว้ล่วงหน้าและเข็มฉีดยาแบบสองช่อง
การใช้เข็มฉีดยารวมที่บรรจุยาไว้ล่วงหน้าช่วยประหยัดเวลาได้มาก เนื่องจากสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมยาเอง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการเตรียมการ และยังช่วยลดความเสี่ยงในการปฎิบัติงานกับยาแบบ manual อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเข็มฉีดยาแบบสองชั้นที่ให้แพทย์สามารถผสมยาสองชนิดเข้าด้วยกันได้ในทันทีก่อนการให้การรักษา ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อยาบางชนิดจำเป็นต้องเก็บแยกจากกันจนกว่าจะถึงเวลาฉีดยา บุคลากรทางการแพทย์จึงจำเป็นต้องเข้าใจและคุ้นเคยกับการทำงานของเข็มฉีดยาพิเศษเหล่านี้ เพื่อให้การจัดการยาเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่การแพทย์ต่างได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากช่วยให้การให้ยาเร็วขึ้นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โรงพยาบาลที่นำเข็มฉีดยาเหล่านี้มาใช้งานรายงานว่ามีข้อผิดพลาดในการรักษาลดลงอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของอุปกรณ์เหล่านี้ในบริบทของระบบสาธารณสุขยุคปัจจุบัน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับขนาดของเข็มฉีดยา
ฉันจะแปลงระหว่างหน่วยและมิลลิลิตรได้อย่างไร?
การเข้าใจวิธีการแปลงหน่วยและมิลลิลิตรมีความสำคัญอย่างมากเมื่อต้องให้ยาอย่างถูกต้อง สำหรับสิ่งของเช่นอินซูลิน สิ่งนี้มีความแตกต่างอย่างมาก เนื่องจากแพทย์มักเขียนใบสั่งยาโดยใช้ระบบการวัดที่แตกต่างกัน พยาบาลและเจ้าหน้าที่การแพทย์คนอื่นๆ จำเป็นต้องเข้าใจวิธีการคำนวณตัวเลขเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่นอินซูลิน ส่วนใหญ่ 1 มิลลิลิตรเท่ากับประมาณ 100 หน่วย เมื่อผู้คนคำนวณการแปลงผิดพลาด จะเกิดเรื่องไม่ดีตามมา ผู้ป่วยอาจได้รับยาในปริมาณมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ซึ่งทำให้พวกเขาเสี่ยงอันตราย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนที่ทำงานในวงการสาธารณสุขควรยึดมั่นในความเข้าใจพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เหล่านี้ หากพวกเขาต้องการรักษาความปลอดภัยของผู้ป่วยและรักษาผู้ป่วยอย่างเหมาะสม
ฉันสามารถใช้ขนาดเข็มฉีดยาเดียวกันสำหรับยาต่าง ๆ ได้ไหม?
การใช้ไซริงค์ขนาดเดียวกันซ้ำเพื่อใช้กับยาหลายชนิด อาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่จริงๆ แล้วการปฏิบัติเช่นนี้กลับก่อให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับยาที่มีฤทธิ์แรง สารตกค้างของยาชนิดหนึ่งอาจปนเข้ากับอีกชนิดหนึ่ง ทำให้ฤทธิ์ของยาที่สองเปลี่ยนไป ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและการเป็นอันตราย ลองพิจารณายาโมฟีน (morphine) เป็นตัวอย่าง หากมียาหลงเหลืออยู่ในไซริงค์หลังจากดูดเข้าไปแล้ว จากนั้นจึงนำยาอื่นมาฉีดเข้าไปในไซริงค์เดิม ก็มีโอกาสเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาก่อให้เกิดผลเสียตามมา แพทย์และพยาบาลจึงจำเป็นต้องเน้นย้ำกับผู้ป่วยว่าเหตุใดจึงควรใช้ไซริงค์แยกกันสำหรับยาแต่ละชนิด การปฏิบัติง่ายๆ ข้อนี้มีความสำคัญมากในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายจากความผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงได้ระหว่างการรักษา
ขนาดใดเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยเด็กหรือผู้สูงอายุ?
การเลือกขนาดเข็มฉีดยาที่เหมาะสมมีความสำคัญมากเมื่อต้องฉีดยาให้เด็กหรือผู้สูงอายุ มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น ขนาดตัวของผู้ที่จะฉีด ขนาดยาที่ต้องการ และตำแหน่งการฉีดว่าเป็นการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้ากล้ามเนื้อ เด็ก ๆ โดยทั่วไปมักต้องการเข็มที่เล็กกว่าเพราะร่างกายของพวกเขามีขนาดเล็กอยู่แล้ว การใช้เข็มที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ได้รับยาในปริมาณที่มากเกินไป หรือทำให้เจ็บระหว่างฉีด ในผู้สูงอายุก็เช่นกัน หลายท่านมีผิวหนังบางและเขียวช้ำง่าย การใช้เข็มที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดความเจ็บปวดเพิ่มเติม หรือแม้กระทั่งทำให้เนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ผิวหนังได้รับความเสียหาย การเลือกเข็มให้เหมาะสมจะช่วยให้การฉีดยาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความเจ็บปวดที่ไม่จำเป็นหลังฉีด บุคลากรทางการแพทย์ที่ใส่ใจในการเลือกใช้เข็มฉีดยาอย่างเหมาะสมจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในทั้งกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ